<

div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"> คุณยายชาวไต้หว้นวัย 80 ปี เผาเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาททิ้ง แต่ต้องน้ำตาซึมเมื่อได้ทราบเหตุผลว่า เธอเป็นโรคสมองเสื่อม ใช้ชวิตตามลำพัง หลังสามีเสียชีวิต มีลูกชายก็ไม่มาดูแล ไม่รู้จะเก็บเงินไว้ให้ใครเลยเอามาเผาทิ้ง

         วันที่ 6 ตุลาคม 2559เว็บไซต์ news.china.com เปิดเผยรายงานอ้างอิงจากสื่อท้องถิ่นของไต้หวัน ระบุว่า มีหญิงชราวัย 80 ปีรายหนึ่งได้นำธนบัตรจำนวนมากเข้าไปเผาทำลายในเตาเผาเครื่องหอมบูชาเทพเจ้าที่หน้าศาลเจ้า สร้างความประหลาดใจและงุนงงสงสัยให้กับนักท่องเที่ยวที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไประงับการเผาไว้ได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาอยู่นานกว่า 4 ชั่วโมงกว่าจะเก็บกู้ซากธนบัตรได้หมด ประมาณเงินที่ถูกทำลายทั้งหมดได้กว่า 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 1.1 ล้านบา
 ตามคำบอกเล่าของพยานที่เห็นเหตุการณ์เผยว่า เห็นหญิงชราใส่ธนบัตรจำนวนมากเข้าไปในเตาเผาดังกล่าว ก่อนจะจุดเทียนแล้วโยนใส่ตามเข้าไป จากนั้นก็เดินค้ำไม้เท้าออกจากไป โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามตัวหญิงชรารายนี้จนเจอและควบคุมตัวมาได้ ซึ่งเธอเองก็ได้ยอมรับสารภาพแต่โดยดี


คุณยายรายนี้เล่าถึงเหตุผลของเผาธนบัตรครั้งนี้ว่า เมื่อก่อนคุณยายอาศัยอยู่กับสามี แต่พอสามีตายคุณยายก็ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมและต้องอาศัยอยู่ตามลำพัง แม้เธอจะมีลูกชาย 1 คน แต่เขาก็แยกไปอยู่ที่อื่น คุณยายบอกว่า ลูกชายได้บอกว่าจะกลับมาดูแลเธอที่บ้าน เธอจึงตั้งใจว่าจะนำเงินเก็บก้อนนี้ไว้ให้ลูกชาย แต่สุดท้ายลูกก็ไม่กลับมา คุณยายจึงนำเงินทั้งหมดไปเผาทิ้งเช่นนี้

          โดยหลังจากทราบเรื่องราว ลูกชายของคุณยายก็รีบเดินทางไปยังสถานีตำรวจด้วยความเป็นห่วงแม่ว่าจะได้รับโทษจากการก่อเหตุเผาเงิน พร้อมกับร้องขอให้เจ้าหน้าที่เห็นใจแม่วัยชรา

อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องส่งตัวคุณยายไปดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยาทษของคดีดังกล่าวคือต้องปรับเงินเป็นจำนวน 5 เท่า แต่คุณยายชรามากอายุถึง 80 ปี ศาลจึงพิจารณาลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง