คาหนังคาเขา!!! เมื่อลูกชาย ถูกล้วงกระเป๋าทุกๆวัน จับตัวไม่ได้ เลยวางแผนเอายาม่วงยัดที่แบงค์ พอพักเที่ยง ทันใดนั้นก็จับได้ว่าคนนี้เอาไป ครูถึงกับรับไม่ได้

ขอบพระคุณที่มา **** กระทู้นี้ เขียนขึ้นด้วยใจแม่คนหนึ่ง  มิได้มีเจตนาจะทำให้ผู้ใดเสื่อมเสียนะคะ ***** ลูกชายเรียนอยู่ชั้น ป4 เป็น...


ขอบพระคุณที่มา
**** กระทู้นี้ เขียนขึ้นด้วยใจแม่คนหนึ่ง  มิได้มีเจตนาจะทำให้ผู้ใดเสื่อมเสียนะคะ *****
ลูกชายเรียนอยู่ชั้น ป4 เป็นเด็กค่อนข้างหัวอ่อน ไม่ทันคน เป็นเด็กสมาธิสั้นด้วย ยิ่งเป็นส่วนหนึ่งทำให้ลูกชายไม่ค่อยจะรู้สึกตัวเวลา โดนล้วงกระเป๋า กระเป๋าเงินลูกชาย จะห้อยด้วยโซ่ไปร้อยอยู่ที่หูเข็มขัด แรกๆที่หาย เราก็คิดว่าเงินอาจจะล่วงหล่นหาย เย็บหนังยางไว้รัดธนบัตรเพื่อที่เงินจะได้ไม่หล่นหายแบบนี้
มัดยางไว้แบบนี้ก็ยังหาย  หายก่อนที่จะพักกลางวันทุก ๆ วันไป
หายจนลูกขอเอาข้าวกล่องไปกินกลางวันที่โรงเรียน

ใจแม่เริ่มคิด  มันหายผิดปกติไปนะ  เหมือนมีเวทมนต์เสกเงินหายแว๊บ  หายได้แบบนี้ทุกวันไม่ดีแน่ๆ
หายแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ  ทังตัวลูกเอง ลูกควรดูแลของส่วนตัวของตัวเองให้ได้  ไม่ใช้ใครจะมาหยิบเอาไปก็ได้  ไม่รู้ตัวแบบนี้  ใช้การไม่ได้  แม่ต้องซ่อมลูกอย่างเล่งด่วนที่สุด
ไม่ดีกับเด็กที่ล้วงเงินไป  เห็นว่าเพื่อนไม่ทัน ไม่รู้ หยิบได้  ล้วงได้  ทีนี้ก็ล้วงกันทุกวัน  ถ้าติดเป็นนิสัย  เด็กคนนี้โตไปแย่แน่ๆ
ขันแรก  แม่แจ้งคุณครูประจำชั้น  เมื่อแจ้งไป  เงินจะไม่หายอยู่  3 วัน  แล้วก็กลับมาหายอีก
หายทุกวัน  เริ่มประสาทค่ะ  ลูกเลิกเรียนมาคำถามแรกเลย  คือวันนี้เงินหายหรือเปล่า  ลูกเครียดค่ะ  แม่ก็เครียดมาก
พอแจ้งครูอีก  ก็จะไม่หายอยู่  3 วัน    แต่คร้ั้งนี้คุณครูเริ่มสังเกตุพฤติกรรมเด็ก ๆ สังเกตุการใช้เงิน  เริ่มมองเห็นความผิดสังเกต
และแล้วเงินก็กลับมาหายอีก  จะทำยังไงดีล่ะ  ลูกบอกว่า  เพื่อนคนนี้  ต้องเอาของผมไปแน่ๆ  ใจแม่ไม่ดีล่ะ  ลูกไม่ควรโทษใคร  ถ้าเรายังไม่สามารถพิสูจนฺได้  คนผิดจะเป็นตัวลูกเอง  คืนนั้นเข้านอนด้วยความรู้สึกไม่ดีเลย  โลกใบนี้ไม่ใช้อยู่ง่าย ๆ ลูกต้องอยู่ให้ได้  มนุษย์แม่ต้องจัดการให้ได้
ตืนมาด้วยอาการสมองตึง  วันนี้ฉันจะจับให้ได้  นึกขึ้นมาได้  ถึงยาม่วง เยนเซียนไวโอเลต ถ้าโดนเข้าไปจะล้างไม่ออกเลยเชียว

แม่จัดการเอาสำลี  พันด้วยถุงพลาสติก สอดเข้าไปในธนบัตร(เพื่อให้ธนบัตรเลอะน้องที่สุด) หยอดด้วยยาม่วงให้ชุ่ม  มัดยางไว้เหมือนทุกวัน ถ้าใครมาจับ ยาจะทะลักออกจากสำลี  เลาะมือแน่นอน  แบบนี่
เวลาพักกลางวัน  เราจะไปจับเด็กคนไหนที่มือม่วง
รอคอยเวลาด้วยจิตใจไม่สงบเลย  กังวลไปต่าง ๆ นาๆ  ลูกจะเอาออกมาเล่นเลอะเทอะไหมนะ
ลูกจะบอกเพื่อนไม่นะ  "วันนี้เรามีกับดักมา ลองจับดูสิเลอะมือล้างไม่ออกเลย" 555
คิดไปสารพัด

แม่  :  "อ่าวมือไปเลอะอะไรมาลูก"
เพื่อนลูก  : "เปล่าครับ ๆ ผมไม่ได้เอาครับ  เปิดดูก็ได้ ครูสั้งให้ผมตรวจดูเงิน  ก่อนพักกลางวันทุกวันครับ ผมเห็นคับ  พี่ป6 หยิบไปครับ ผมเห็น"
                แก้ตัวลิ่นพันกันเลยเชียว
แม่  :  "อ๋อหรอ  งั้นช่วยบอกแม่หน่อยได้มั้ย  ว่าพี่  ป6 คนไหนเอาไป  จะได้บอกครู  ช่วยหน่อยสิ"  สวมวิญญาณนางฟ้านิดนึง
เพื่อนลูก  :  "ผมไม่แน่ใจว่าพี่เขาอยู่  ป5 หรือ  ป6  ผมก็จำไม่ได้แล้ว"   อ่าวเฉไฉซะแล้ว
แม่  :  "ออ  งั้นหนูไปกินกลางวันเถอะ  วันหลัง  ช่วยจำหน่อยว่าคนไหน  บอกแม่ที  บอกครูก็ได้"  เดี๋ยวเถอะจะได้เห็นดีกัน  เด็กน้อยเอ๋ย
เพื่อนลูก  :  "ครับ ๆ"   แล้วก็วิ่งไปกินข้าว

เปิดกระเป๋าลูกชายดู  เงินหายไปบางส่วน  คงเหลืออยู่  1 ใบ  หลุดออกจากยางรัด  และยาม่วงทะลัก
นั่งคิดอยู่สักพัก  ครูประจำชั้นเดินมาพอดี  เล่าให้ครูฟังทั้งหมด พร้อมรูปถ่าย  คุณครูไม่เคยบอกไม่เคยมอบหน้าที่ให้มาตรวจกระเป๋าลูกชายเลย  และก็ตรงกับคนที่ครูสงสัยจริง ๆ  ครูรับปากจะสอบสวนให้ และจะส่งข่าวให้แม่ทราบ

ตกเย็น  ครูส่งข่าวมาบอกว่า  เด็กสารภาพว่าเป็นคนล้วงกระเป๋าลูกชายจริงๆ
คุณครูแจ้งผู้ปกครองแล้วทางโทรศัพท์  เพราะกลัวว่า  ถ้าช้า  มือหายม่วง  ผู้ปกครองจะไม่เชื่อคุณครู
คุณพ่อของเพื่อนลูก  โทรมาหา  บอกว่ารู้ข่าวจากครูแล้ว  ตกใจมาก  ไม่อยากเชื่อ  เพราะอยู่บ่านกับอยู่โรงเรียนพฤติกรรมผิดกันคนละคนเลย  ขอโทษและสอบถามว่าต้องการให้ชดใช้อะไรให้แม่แจ้งได้
เราบอกว่าเราไม่ต้องการอะไรเลย  ดีใจที่รู้ว่าเป็นใคร  สบายใจแล้ว  ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของพ่อแม่  ที่จะต้องอบรมลูก ๆ กัน  ลูกเราเองก็ต้องอบรมเหมือนกัน  เด็กค่อย ๆ สอนกันไป  วันข้างหน้าจะได้ไม่กล้าทำอีก  คุยกันด้วยดี  แล้วก็วางสายไป
ใจคอไม่ค่อยดี  ห่วงอยู่เหมือนกันว่าคงภูกทำโทษ  แต่ก็ต้องเป็นไปตามสิ่งที่เด็กคนนั้นทำไว้  ทำผิดก็ต้องได้รับโทษ
เช้ามาไปส่งลูกที่โรงเรียน พบแม่ของเด็ก  เขาเข้ามาขอโืทษเรา  น้ำตาคอลตาแดงๆ สงสารลูกโดนพ่อตี  เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เลย  คงเสียใจ  เด็กก็ยกมือขอโทษเรา  บอกว่า"ผมจะไม่ทำแล้วครับ"  ขอโทษลูกเรา
เราก็เลยบอกว่า "ไม่เป็นไร  อย่าทำอีกนะครับ"
เงินเสียไปแล้วช่างมัน  แต่ความเป็นเพื่อนจะต้องไม่เสียไป
คิดว่าคงจะจบลงด้วยดี  ไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้อีก ต่างคนก็ต่างซ่อมลูกของตัวเองกันต่อไป  คอยสอนกันไป  เด็กน้อย

ทีมา     http://robin458.blogspot.com/2016/12/blog-post_23.html?m=1

You Might Also Like

0 comments