นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุตกน้ำเสียชีวิต และการได้รับบาดเจ็บจากดอกไม้ไฟในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยแนะนำให้ผู้ปกครองดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด

"ในช่วงเทศกาลลอยกระทงเป็นช่วงที่มีประชาชนเสี่ยงตกน้ำ จมน้ำ และเสียชีวิตสูงสุดในรอบปี โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุ 1-15 ปี เมื่อปีที่ผ่านมามีสถิติเจ็บป่วยฉุกเฉินจากการจมน้ำ 26 คน ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากการพลัดตกน้ำ เพราะผู้คนเบียดเสียด รวมทั้งลงไปเก็บเศษเงินในกระทง ดังนั้นข้อควรระวัง คือต้องไม่เล่นผาดโผน ผู้ปกครองควรดูแลเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญควรลอยกระทงในพื้นที่ที่จัดไว้ให้เท่านั้น ขณะที่ผู้ใหญ่มีสถิติการจมน้ำ 98 คน" นพ.อนุชา กล่าว

ขณะเดียวกันผู้จัดงานก็ควรเตรียมมาตรการป้องกันให้พร้อม เช่น ทำรั้วหรือสิ่งกั้นขวางเพื่อป้องกันการตกน้ำ, เตรียมอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำไว้ใกล้ ๆ อาทิ ถังแกลลอน เชือก ไม้ และติดป้ายคำเตือนไว้ในพื้นที่เสี่ยงหรือที่ห้ามลงไปลอยกระทง และหากจำเป็นต้องลงเรือควรสวมเสื้อชูชีพทุกครั้ง ซึ่งหากพบเห็นผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง

เล
ขาธิการ สพฉ.กล่าวว่า นอกจากอุบัติเหตุจากการจมน้ำ ตกน้ำ แล้วสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การจุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ โดยปีที่ผ่านมามีสถิติเด็กอายุ 1-15 ปี เจ็บป่วยฉุกเฉินจากการแผลไฟไหม้ 50 คน ขณะที่ผู้ใหญ่เจ็บป่วยฉุกเฉิน 214 คน

"ในปีนี้จึงประสานให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้เตรียมพร้อมรับมือแล้วอย่างเต็มที่ ซึ่งหากได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะเมื่อนิ้วหรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งขาดให้รีบห้ามเลือด โดยใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผล ส่วนวิธีการเก็บรักษาอวัยวะส่วนที่ขาดคือ ให้นำสิ่งสกปรกออกจากส่วนที่ขาด ล้างน้ำสะอาด ใส่ถุงพลาสติก ปิดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปใส่ในน้ำแข็ง โดยอวัยวะที่มีกล้ามเนื้อมาก ๆ เช่น แขน ขา ต้องได้รับการผ่าตัดต่อเส้นเลือดให้เร็วที่สุด ภายใน 6 ชั่วโมง  ส่วนบริเวณที่ไม่มีกล้ามเนื้อ เช่น นิ้ว สามารถเก็บไว้ได้ 12-18 ชั่วโมง แต่เพื่อความปลอดภัยทางที่ดีไม่ควรเล่นพลุ ประทัด หรือดอกไม้ไฟ ซึ่งถือเป็นการป้องกันตั้งแต่ต้นทาง

ทีมา  http://www.topicza.com/news21665.html