เมื่อคืนที่ผ่านมาพบกับเรื่องเศร้าวีรกรรมทหารกล้า กับเรื่องราวของทหารที่ถูกลอบวางระเบิด โดยผู้ก่อความไม่สงบที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา จนมีทหารพลีชีพไปถึง 8 นาย หนึ่งในนั้นคือ พลทหารศักดิ์ดา วงศ์คำ ซึ่งกำลังเดินทางกลับบ้านไปฉลองวันเกิดของตัวเอง ที่จังหวัดกำแพงเพชร ข่าวร้ายนี้ได้ลบรอยยิ้มบนใบหน้า และทิ้งไว้เพียงคราบน้ำตาของ แม่ ผู้เสียลูกชายคนเดียวไปตลอดกาล หลังจาก พลทหารศักดิ์ดา เสียชีวิตแล้ว แต่ยังปรากฏให้เพื่อนๆทหารได้เห็น อีกทั้งเข้าฝันบอกว่าตัวเขายังไม่ตาย!

คุณแม่ตุ่น และคุณโอ พี่สาว เล่าว่า พลทหารศักดิ์ดา หรือ เอ เขาเป็นคนที่เชื่อฟังแม่ตลอด ทำให้แม่ภูมิใจมาก บอกอะไรก็เชื่อหมด อีกทั้งสมัครใจไปเป็นทหารลงชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นความใฝ่ฝันแต่เล็ก พอแม่รู้ก็ร้องไห้กับพ่อ ต่อมาน้องเอ ในวัย 25 ปี ก็ได้ไปประจำการที่ยะลา ตั้งแต่เดือนเมษายนปี 55 นับแต่นั้นก็โทรมาหาแม่ทุกวัน พอวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา น้องเอ ก็โทรมาบอกขอของขวัญวันเกิดกับแม่ เนื่องจากเกิดวันที่ 27 มิถุนายน แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวกลับมาจะให้ ตอนกลางคืนก็ยังโทรมาย้ำว่า “แม่อย่าลืมนะๆ” พอถึงวันที่ 29 มิถุนายน ก็เกิดลอบเหตุวางระเบิด คุณแม่ทราบข่าวจากเพื่อนบ้านว่า รถทหารคันที่เอกำลังขึ้นโดนระเบิด! ตอนนี้ยังไม่พบศพ จากนั้น ทหารก็การันตีว่า ศพเอ เป็นศพสูญหาย เพราะหาไม่เจอ ศพกระเด็นไปกว่า 200 เมตร!! ทว่าหลังจากนั้น เพื่อนๆที่ขี่รถตามหลังมา ก็เข้าไปดู และพบศพเอ ที่มีบาดแผลตามตัว ตามหน้า ขาแตก กระดูกละเอียด รองเท้าเห็นข้างเดียว ใส่ถุงปุ๋ยมาให้แม่ดู..

สุดท้ายคุณเอ ก็กลับมาในสภาพร่างไร้วิญญาณนอนอยู่ในโลงที่มีธงชาติคลุม คุณโอ เล่าเสริมว่า ก่อนน้องเสียชีวิต เธอได้โทรคุยกัน น้องยังทวงของขวัญ และยังบอกอยู่ว่าให้จัดเตรียมห้องให้ดี จะกลับไปพักผ่อน แต่พอเกิดเหตุนี้ขึ้น ทุกคนก็หัวใจสลาย หลังจากนั้น คุณแม่เล่าต่อว่า พอจัดงานศพเสร็จ เขาก็ตามไปส่งแขกที่มาร่วมงาน หมาก็หอน กลิ่นธูปก็ชัดมาก เขาก็ถามกันว่าใครจุดธูป แต่ก็ไม่มีใคร ญาติจึงทักบอกว่า เอ กลับไปเหอะ ถึงบ้านแล้ว อีกเหตุการณ์ มีเด็กน้อยไปเที่ยวเล่น พอตกเย็นกลับบ้าน ยายก็ถามว่าใครมาส่ง? ทำไมไปเล่นดึกจัง? เด็กน้อยก็ตอบว่า พี่ทหารมาส่ง อีกทั้ง แฟนคุณโอ ก็เพิ่งเห็น เมื่อคืน(7 ส.ค.) เห็นเป็นเงาร่างน้องเอ กำลังเก็บกวาดบ้านและเดินเข้าบ้าน แถมยังมีเหตุการณ์สุดทึ่ง เพื่อนทหารที่ยะลาเล่าว่า เจอเอไปหา เพื่อนจึงบอกว่า เอ มาทำไม มึงตายแล้ว ปรากฏ เอ ตอบไปว่า ยัง กูยังไม่ตาย อีกทั้งยังเกิดเหตุลี้ลับอีก เมื่อน้องเอ มาเข้าฝันบอกคุณโอว่า เขาทำท่าผงกหัวบอกว่าได้กินเค้กแล้ว อร่อยมาก เหตุการณ์นี้ทำให้ คุณแม่ อยากทราบว่า วิญญาณน้องเอ เป็นอย่างไร? ต้องการอะไรไหม? ต้องเชิญดวงวิญญาณไหม?





คุณริว จิตสัมผัส จึงช่วยสื่อวิญญาณน้องเอ และได้อธิบายว่า กรณีนี้แตกต่างจากทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเชิญวิญญาณ เพราะนี่เป็นกรณีของผู้ที่ทำเพื่อแผ่นดิน ขณะเสียชีวิต ทางผู้บังคับการได้นำร่างใส่โลงและปกคลุมด้วยธงชาติ นั่นยิ่งกว่าเชิญวิญญาณแล้ว เขาจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีแน่นอน นอกจากนี้ น้องเอ ได้ฝากเพียงเรื่องเดียวคือ ฝากให้กราบเท้าแม่ให้หน่อย นี่คือสิ่งสุดท้ายที่อยากทำ จากนั้น คุณริว จึงอาสากราบเท้าแม่ตุ่นให้กับน้องเอ รวมทั้งบอกคุณแม่ว่า ให้บอกน้องเอให้ไปอย่างหมดห่วง พร้อมกับสื่อคำพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า แม่ หนูกราบลา

ทีมา    http://www.baakhao.com/2016/08/blog-post_26.html