อาถรรพณ์ต้นตะเคียนด่านสิงขร! ชาวบ้านอยู่มาเป็นร้อยปีไม่มีใครคิดขุด แต่ผู้รับเหมาไม่ฟัง คนงานถูกบุ้งกี๋แบ็กโฮสับคอตาย ตะลึง รอบคอแทบไม่มีเลือด แต่บริเวณแอ่งน้ำตอตะเคียนกลับเป็นสีแดงฉาน ชาวบ้านเชื่อสังเวยเจ้าแม่ตะเคียน

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 59 จากกรณีคนงานก่อสร้างศาลาริมน้ำบริเวณตลาดนัดด่านสิงขร หมู่ 6 บ้านด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ถูกบุ้งกี๋รถแบ็กโฮฟาดเข้าที่ลำคอเสียชีวิตคาที่ บริเวณจุดก่อสร้างริมร่องน้ำตามธรรมชาติห้วยเครา ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างศาลาริมน้ำจำนวน 6 หลัง ในโครงการพัฒนาพื้นที่ด่านสิงขร เพื่อรองรับการขยายตัวจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 59 ร.ต.อ.อามร เพชรด้วงรอง สว.สส.สภ.คลองวาฬ ไปที่เกิดเหตุพร้อมมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน พบศพ นายสมบูรณ์ บุญแก้ว อายุ 43 ปี ชาวสมุทรสาคร สภาพคอหัก มีรอยบาดจากบุ้งกี๋รถแบ็กโฮ นอนอยู่บนพื้นบริเวณเสาเข็มที่ตอกอยู่จำนวนหลายสิบต้น ห่างจากตอต้นตะเคียน ประมาณ 15 เมตร ส่วนเหนือด้านบนขึ้นไปบริเวณพื้นถนนตลาดนัดด่านสิงขร มีศาลเจ้าแม่คะเตียนตั้งอยู่

นายวันชัย ชมชื่น อายุ 22 ปี ชาวเพชรบุรี เป็นคนขับรถแบ็กโฮ ให้ปากคำว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถแบ็กโฮนำบุ้งกี๋ตัดเสาเข็มส่วนที่เกินจากพื้นดิน โดยผู้ตายใช้แก๊สตัดเหล็กของต้นเสาเข็ม และขณะที่กำลังนำบุ้งกี๋หักลำเสาเข็มพลาดไปโดนผู้ตายที่ยืนอยู่จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เบื้องต้น พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาขับเครื่องจักรโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต

ด้าน นายธนู หวั่นวะดี อายุ 51 ปี ชาว ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าของตลาดนัดนายธนู บริเวณที่ดิน ส.ป.ก. ขนาด 8 ไร่ ซึ่งเปิดเป็นตลาดนัดมากว่า 15 ปี ปัจจุบันพัฒนาพื้นที่เป็นตลาดนัดด่านสิงขร กล่าวว่า ชาวบ้านเชื่อว่าเหตุคนตายเกี่ยวข้องกับเจ้าแม่ตะเคียน ซึ่งตอตะเคียนต้นนี้มีขนาดกว้างประมาณ 4 คนโอบ ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นว่าเหลือแต่ตอแล้ว ส่วนลำต้นตะเคียนที่ถูกตัดไปก่อนหน้านี้ รวมแล้วน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ชาวบ้านจึงสร้างศาลาให้เป็นที่ประทับของเจ้าแม่ตะเคียน พร้อมทำพิธีเชิญวิญญาณมาประทับที่ศาล ซึ่งเดิมเป็นศาลาไม้ขนาดเล็ก ต่อมาสร้างใหม่ให้ใหญ่ขึ้น และยังเป็นที่สักการบูชาของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดแห่งนี้

น้ำข้างตอตะเคียน กลายเป็นสีแดงคล้ายเลือดอย่างน่าประหลาดใจ
ส่วนความเชื่อของชาวบ้าน เชื่อว่าเจ้าแม่ตะเคียนเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยในชีวิตความเป็นอยู่และการค้าขายแต่ดั้งเดิม ตั้งแต่จำความได้ไม่เคยมีเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ นอกจากนี้ ภายในบริเวณตลาดนัดยังมีศาลเจ้าพ่อหินกอง ซึ่งเป็นผู้ที่ชาวบ้านเชื่อว่าดูแลผืนป่าตะนาวศรี ระหว่างไทยและพม่า เป็นอีกหนึ่งศาลที่จะต้องไปไหว้พร้อมกับศาลเจ้าแม่ตะเคียน

ทั้งนี้ เคยมีเหตุการณ์ที่คนงานก่อสร้างเห็นเจ้าแม่ตะเคียนเมื่อปี 57 ขณะที่มีการก่อสร้างตลาดนัดด่านสิงขร โดยผู้รับเหมาไม่ได้บอกกล่าวกับศาลเจ้าแม่ตะเคียน ทำให้ช่วงเย็นมีคนงานเห็นหญิงใส่ชุดไทย 2 คน มาเดินเล่นประกอบท่าทางรำไทยบริเวณริมน้ำใกล้ต้นตะเคียน ทุกคนจึงรู้ว่าหากต้องการค้าขายจะมาไหว้บนบาน เมื่อขายได้ก็จะนำน้ำแดงหรือประทัดมาจุดแสดงความขอบคุณเจ้าแม่ตะเคียน

สำหรับเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตล่าสุด เคยเตือนผู้รับเหมาแล้วว่าไม่ให้ไปยุ่งกับตอตะเคียน แต่ไม่มีใครฟัง เพราะไม่เคยมีใครคิดขุดตอตะเคียนนี้ กระทั่งเกิดเหตุการณ์น่าขนลุกขนพอง แต่ที่น่าประหลาดใจคือ ที่ลำคอคนตายแทบไม่มีเลือด ส่วนที่รอบตอตะเคียนเป็นแอ่งน้ำขัง กลับกลายเป็นสีแดงฉานคล้ายกับเลือดมนุษย์ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นการสังเวยเจ้าแม่ตะเคียน.

ทีมา   http://khaovanee.blogspot.com/2016/09/blog-post_48.html