แล้วจะหาว่าไม่เตือน! ถ้าไม่อยากเป็นโรคมะเร็ง บอกเลยว่า..ควรหยุดกินอาหารชนิดนี้!!

โรคมะเร็งเริ่มเข้ามามีอิทธิพลกับคนบนโลกเพิ่มมากขึ้น และมีสถิติบ่งบอกว่าจำนวนผู้เป็นโรคมะเร็งนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี ในวันนี้เราจึงอยากมานำเสนอบทค...

โรคมะเร็งเริ่มเข้ามามีอิทธิพลกับคนบนโลกเพิ่มมากขึ้น และมีสถิติบ่งบอกว่าจำนวนผู้เป็นโรคมะเร็งนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี ในวันนี้เราจึงอยากมานำเสนอบทความดีดีกับแล้วจะหาว่าไม่เตือนถ้าไม่อยากเป็นโรคมะเร็ง บอกเลยว่าควรหยุดกินอาหารชนิดนี้

อาหารที่เราจะพูดถึงก็คือ "ฮอทดอก" แสนอร่อยนั่นเอง แต่แฝงมาด้วยมะเร็งร้ายเต็มๆ ซึ่งกระบวนการผลิตฮอทดอกนี่แหละคือ สิ่งที่สร้างอันตรายให้กับร่างกาย ว่าแล้วตามมาดู...

วัตถุดิบในการทำก็คือ

• เครื่องปรุงเทียม 
• สารให้ความหวานเทียม 
• อาหารประเภทแป้ง 
• น้ำเชื่อมข้าวโพด 
• ผงชูรส
• เนื้อหมู เนื้อวัว และไก่

โดยมีวิธีการทำดังต่อไปนี้

• นำเนื้อมาทำการบด แล้วใส่ลงในเครื่องโลหะที่ไก่ขูด
• จากนั้นนำมาปรุงรส
• หลังจากนั้นฮอทดอกก็จะถูกนำมาใส่น้ำและสารให้ความหวานเทียม เพื่อให้เนื้อเกาะตัวกันจนสามารถนำมาบรรจุใส่ในปลอกที่มีรูปร่างและขนาดเท่ากันได้ 
• นำมาเรียงสำหรับการอบ 
• เมื่ออบเสร็จมันจะถูกนำมาแช่ในน้ำเย็นผสมเกลือเพื่อเก็บรักษา และถูกบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ 
• ถูกปิดผนึกด้วยเครื่องจักร
เมื่อจบในส่วนของวิธีการทำแล้วเราก็อยากจะบอกคุณว่าแล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ส่วนประกอบที่ไม่ดีที่ถูกใส่เพิ่มเติมเข้าไปในฮอทดอก อาทิเช่น ขา กรงเล็บ ผิวหนังและไขมัน ซึ่งมีส่วนร่วมในการเพิ่มความเป็นกรดในร่างกายของคุณ และทำให้ร่างกายของคุณร้อนพอสำหรับการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เป็นที่แน่นอนว่าคุณไม่มีทางรู้ถึงส่วนประกอบพวกนี้ เพราะป้ายสินค้าไม่บอกคุณแน่นอน


จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวายได้ทำการค้นพบว่า

• กระบวนการแปรรูปเนื้อ มันสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งได้มากถึง 67% 
• เนื้อสัตว์แปรรูปแทบจะทุกชนิด ถูกประกอบไปด้วยไนเตรต 
• ไนเตรต มักจะเป็นตัวนำไปสู่ความเสี่ยงของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ ตับอ่อน และมะเร็งกระเพาะอาหาร 

สถาบันเพื่อการวิจัยโรคมะเร็งแห่งอเมริกาได้กล่าวไว้ว่า

“เมื่อคนๆหนึ่งมีการบริโภคฮอทดอกหนึ่งชิ้นในชีวิตประจำวัน บุคคลนั้นจะสัมผัสกับความเสี่ยง 21% ของการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่”

หลังจากนี้ัใครจะทานฮอทดอก ก็คงต้องคิดพิจารณากันสักนิด และควรคำนึงถึงสุขภาพของคุณที่จะตามมา ก่อนที่คุณจะหยิบฮอทดอกมาทาน


ทีมา    http://www.sara-1000.com/2016/11/blog-post_57.html

You Might Also Like

0 comments