Monday 19 December 2016

อ่านแล้วถึงกับขนลุก!!! เปิดจดหมาย “เอ็กซ์” ถึง “สรยุทธ” ก่อนถูกสังหาร…เปรยมีคนต้องการทรัพย์สิน!!! ย้ำข้อความนี้ถึงลูกและเมียรัก….!!

จากคดีความที่หลายคนให้ความสนใจ หลังมีคำสั่งศาลตัดสินประหารชีวิต หมอนิ่ม ในข้อหาจ้างวานฆ่า สามีของตนเองคือนาย เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ

ซึ่งในตอนที่สืบคดีครั้งแรกนั้น ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของคนใกล้ตัว แต่แล้วก็มีหลักฐานต่างๆมากมายที่ค่อยๆเผยออกมา ทำให้สุดท้าย ตำรวจก็กลับมาจับตาคนร้ายได้ถูกตัว ซึ่งหนึ่งในหลักฐานนี้ก็คือจดหมายที่ เอ็กซ์ เขียนถึงนักข่าวชื่อดังอย่าง สรยุทธ  สุทัศนะจินดา เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2556

โดยเป็นจดหมายที่เขียนขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่ เอ็กซ์ จะโดนสังหาร…มีใจความดังนี้….
เรียน พี่สรยุทธ์ ที่เคารพครับ ผมเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ที่พี่เคยช่วยเหลือผมตลอด ในขณะนี้เรื่องราวต่างๆ ผมได้ใช้ความอดทนอยู่ในเรือนจำ มทบ.11 ที่นครปฐม ไตร่ตรองและคิดอย่างดีแล้ว จึงเขียน จม.ฉบับนี้ เพื่ออธิบายและขอเล่าเหตุการณ์อีก ทั้งวัตถุประสงค์ของผู้ไม่ประสงค์ดีที่ร่วมกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นมารดากระผมครับ ซึ่งพี่ฟังดูก็คงจะแปลกพิลึกอยู่ ครับผมเข้าใจ แต่ในขณะที่มารดาผมได้รับข้อมูลในเชิงลบ และผิดพลาดอยู่เป็นประจำจากเพื่อนที่ไม่ประสงค์ดีของผม ว่าผมใช้สารเสพติดและมีสิ่งเสพติดในร่างกายจนเกิดภาวะจิตหลอน
ผมเองไม่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจกับมารดา ผมไม่เคยพูดโกหกและไม่ซื่อ พี่ลองนึกดูถึงสิ่งที่ผ่านมาในชีวิตผมสิครับ จิตใจแห่งความเป็นสาธารณะ และตั้งใจรับใช้ชาติ กลับเป็นช่องโหว่ให้เพื่อนเข้ามาพูดคุยและกล่อมจนภรรยาเกิดความกลัว และกังวลใจ จนลุกลามไปถึงมารดา

กลับครั้นผมได้พิสูจน์ปัสสาวะเพื่อค้นหาสารเสพติด และตรวจถึง 6 ครั้ง ไม่พบสารเสพติดตามที่ปรักปรำผม มารดาหลงเข้าใจว่าจะใช้มูลนิธิต่อรองให้ผมรักษา หรือบำบัด แต่พอผลพิสูจน์แล้ว มารดาถึงได้รู้ว่าเป็นเพราะผมตรากตรำทำงานและพักผ่อนน้อย มารดาจึงยื่นขอประกันตัว พร้อมบิดา และไม่ได้คัดค้านการประกันตัวใดๆ อีก แต่พนักงานสอบสวนกลับคัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมานี้
และให้เหตุผลต่อศาลว่า ต้องสืบพยานวัตถุอีก คือ ปืนทั้ง 5 กระบอก ซึ่งเกรงว่าผมจะไปยุ่งเหยิงกับพยานอีก 6 คน ที่สอบอยู่ ทั้งที่มีการยื่นหลักทรัพย์ โดยคุณโอภาส เรืองปัญญาวุฒิ ใช้หลักทรัพย์ที่ดินกว่า 2 ล้านบาทครับ ผมไม่มีสารเสพติด อีกทั้งไม่มีพฤติกรรมหลบหนีเลย น่าจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว
แต่เรื่องยังไม่จบเท่านี้ มีเพื่อนที่ยุยงและไม่ประสงค์ดี นั่นคือ “พ.ต.ท.” เข้ามาเจรจาต่อรอง เพื่อให้ผมเปลี่ยนนายประกัน และพยายามพูดในลักษณะเกลี้ยกล่อม ให้ผมเข้ารักษาอาการทางจิตที่ รพ.มนารมย์ด้านจิตเวช ก่อนหน้านี้นั้น ได้เคยบีบบังคับให้ผมไปมาแล้วในลักษณะนี้
ผมรู้อุบายที่จะทำให้ผมเป็นบุคคลที่ไร้ซึ่งสภาพ ที่จะดำรงอยู่ในสังคมอย่างปกติ เพื่อประโยชน์ทางทรัพย์สิน และการคุ้มครองบุตร ซึ่งครอบครัวของ “พ.ต.ท.” ทั้งภรรยา, บุตร, บิดาของภรรยา, บิดาของ “พ.ต.ท.” เป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยกันทั้งสิ้น
พี่ครับ ลูกสาวกระผมบริสุทธิ์เหลือเกิน ผมรักลูกมาก พี่ครับ เค้าจะให้ผมรับการรักษาและอยู่ในความดูแลของเค้า เพื่อแลกกับอิสรภาพในการยื่นประกันตัว ซึ่งผมไม่ยอม ยอมติดอยู่กับที่นี่ครับ พี่ครับเค้าประสงค์ในทรัพย์ทั้งหมดที่ผมเก็บไว้ในเซฟธนาคารและธุรกิจ กิจการที่ผมร่วมกันก่อตั้งมากับภรรยา ผมสงสารภรรยาครับ
 ผมขอให้พี่ช่วยติดตามเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนครับ เพราะผมกลัวสวัสดิภาพและความปลอดภัยของคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกๆ ทั้ง 2 คนครับ อีกหนึ่งคนในครรภ์ เป็น 3 คนครับ เรื่องที่มีทรัพย์สินที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล 3 ถนนรามคำแหงนั้น เป็นเซฟที่เก็บพระเครื่อง เครื่องเพชร และนาฬิกา ซึ่งจะเปิดได้นั้น ต้องมีลายเซ็น และตัวผมพร้อมกุญแจอีก 1 ดอก ซึ่งทั้งหมดนั้นอยู่ที่ภรรยา เว้นแต่กระผมเองจะเป็นคนไปเซ็น ขอให้พี่ได้รับทราบถึงพฤติกรรมที่กลุ่มคนกลุ่มนี้พยายามทำ บ้าน 2 หลัง และสิ่งอื่นๆ ซึ่งอาจประเมินค่าไม่ได้เลย
หากล่าช้าครับพี่ ขอให้พี่เร่งพิจารณาและตัดสินใจช่วยเหลือผมและครอบครัวด้วยครับ ขอให้พี่ชาย (พี่ยุทธ์) เชื่อมั่นในความเป็นลูกผู้ชาย เป็นนักต่อสู้ของผม หากเรื่องนี้ไม่จริง ดังนั้นแล้วพี่ค่อยตัดหางปล่อยวัดก็ย่อมได้ พี่อาจใช้ข้อมูลจากบิดาผมที่

ทีมา     http://robin458.blogspot.com/2016/12/blog-post_22.html?m=1

No comments:

Post a Comment