ต้นสนใหญ่ โค่นทับบันไดพญานาค พระธาตุดอยสุเทพ
ล่าสุด เคลียร์เส้นทางขึ้นวัดฯ ได้ตามปกติแล้วครับ
หลังข่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดทางโซเชียลมีเดีย ก็สร้างความอกตกใจให้กับชาวเชียงใหม่ เพราะถือว่าดอยสุเทพเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

วันนี้ (14 ก.ย. 59) ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งว่า พายุดีเปรสชัน “ราอี” (Rai) ที่เคลื่อนผ่าน จ.อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางแล้ว และคาดว่าจะเคลื่อนไปปกคลุมภาคกลางตอนบน และภาคเหนือ ตามลำดับต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

ทั้งนี้ จากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ต้นสนอายุ 100 ปี ริมบันไดพญานาค ขึ้นสู่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ได้โค่นทับบริเวณบันไดนาคส่วนกลางลำตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของวัดได้ยินเสียงลงมาดูและได้รายงานให้ทางพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ได้ทราบ พร้อมกับกรรมการวัด มาตรวจสอบความเสียหาย และให้ทางคนงานเข้ามาตัดต้นไม้ที่ล้มทับออก

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีเกิด ปีมะแม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนา และประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่บนดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1927 มีบันไดนาคทอดยาวขึ้นไปสู่วัด 306 ขั้น ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุอยู่ เป็นปูชนียสถานที่แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญคู่เมืองเชียงใหม่

ส่วนบันไดพญานาคทั้งสอง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2100 หรือกว่า 459 ปีมาแล้ว และบูรณะให้เกิดความสวยงามคู่บ้านคู่เมืองมาโดยตลอด เมื่อเกิดเหตุต้นสนที่เรียงรายกันอยู่บริเวณริมบันไดนาคทั้ง 2 ฝั่ง ล้มลงมาทับ จะต้องมีการสำรวจโครงสร้างว่าได้รับความเสียหาย และเกิดรอยร้าวมากน้อยแค่ไหน ก่อนจะบูรณะครั้งใหญ่ไปพร้อมกัน
 ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันขนเศษไม้ออกจากทางขึ้นบันไดนาค วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องปิดเส้นทางชั่วคราว โดยให้นักท่องเที่ยวใช้ลิฟท์ขึ้นไปบนวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ แทน โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เลื่อยยนต์ตัดต้นสนยักษ์ และสามารถเคลียร์เส้นทางได้แล้ว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากฝนตกหนักทำดินอิ่มน้ำ ประกอบกับต้นไม้ต้นดังกล่าวมีน้ำหนักมากและลำต้นสูงทำให้ล้มลงมา
เคลียร์เรียบร้อยหมดแล้วเจ้า ไปไหว้พระได้ตามปกติ

นอกจากนี้ ฝนที่ตกหนักยังทำให้น้ำเอ่อล้นไหลท่วมสวนของชาวบ้าน และมวลน้ำทั้งหมดได้ไหลไปรวมกันลงสู่น้ำตกแม่กลาง เข้าหมู่บ้านเมืองกลาง และอีกหลายๆ หมู่บ้านของ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องยกของหนีน้ำ และขึ้นไปอยู่บนที่สูงเพื่อความปลอดภัย และจากขณะนี้ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากในบริเวณน้ำตกของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ น้ำตกแม่สา และน้ำตกตาดหมอก ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวได้ จึงจำต้องปิดบริการท่องเที่ยวในพื้นที่น้ำตกทั้ง 2 แห่ง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ

ทีมา   http://www.topicza.com/news14951.html